ความแตกต่างระหว่างผู้ตรวจสอบบัญชีและนักบัญชี
ทำไมต้องมีการตรวจสอบบัญชี แล้วใครเป็นผู้ดำเนินการกันนะ?
นักธุรกิจหลายคนคงมีคำถามขึ้นมาว่าทำไมถึงต้องมีการตรวจสอบบัญชี? แล้วใครจะเป็นคนตรวจสอบ? ผู้ตรวจสอบบัญชี (CPA) หรือนักบัญชีภายในบริษัท? แล้วใครคือผู้ส่งเอกสารให้กรมสรรพกรตรวจสอบ? คำถามต่างๆ มากมายเต็มไปหมด ซึ่งคุณไม่ต้องไปหาคำตอบจากที่ไหนไกล เพราะว่าเราได้รวบรวมข้อมูลต่างๆ มาตอบคุณในบทความนี้เรียบร้อยแล้ว!
ผู้ตรวจสอบบัญชี (CPA) กับนักบัญชีไม่เหมือนกันนะ
ผู้ตรวจสอบบัญชีจะมีรายละเอียดการทำงานที่มากกว่านักบัญชีทั่วไป เนื่องจากหน้าที่การรับผิดชอบต่างๆ นั้นมีผลต่อองค์กรในระดับหนึ่งก็ว่าได้ ซึ่งการทำงานนั้นต้องมีความรอบคอบ วิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ได้อย่างเด็ดขาด เจอกับความท้าทายอยู่ตลอดเวลา เพราะไม่รู้ว่าลูกค้าที่จะออกไปเจอนั้นเป็นแบบไหนกันบ้าง ซึ่งต่างจากนักบัญชีที่คอยคิดตัวเลขและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเงินและเรื่องคืนภาษี อาจจะมีเรื่องกระแสเงินสดเข้ามาร่วมด้วย ซึ่งถ้าหากคุณลองมองดีๆ จะเห็นได้ว่าสองอาชีพนี้มีความแตกต่างกันอยู่มากพอสมควร ยิ่งหากเป็นผู้ตรวจสอบบัญชีนอกเหนือจากเรื่องการสรุปผลรายงานทางการเงินแล้ว ยังสามารถแนะนำจุดอ่อนของระบบการควบคุมภายในและแนวทางในการแก้ไขปรับปรุงได้อีกด้วย
ผู้ตรวจสอบบัญชีจำเป็นแค่ไหนแล้วทำไมถึงต้องมี?
เนื่องจากบริษัทและองค์กรต่างๆ ต้องเผชิญกับการตรวจสอบข้อเท็จจริงทางการเงิน ซึ่งผู้ตรวจสอบบัญชีจะมีหน้าที่ตรวจสอบบันทึกทางการเงินและข้อมูลทางการเงิน รวมถึงพิจารณาข้อมูลต่างๆ ที่จะนำมาเป็นหลักฐานประกอบรายงานทางการเงินให้ถูกต้องเป็นไปตามมาตรฐานสอบบัญชี และส่งเอกสารรายงานทางการเงินให้แก่กรมสรรพกรอีกด้วย ซึ่งการตรวจสอบบัญชีถือเป็นกระบวนการที่จะเข้ามาลดความเสี่ยงและช่วยให้บริษัทหรือองค์กรลดต้นทุนต่างๆ ได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ธุรกิจจะโตไวถ้าคุณใส่ใจตรวจสอบบัญชีเป็นประจำ
จุดประสงค์หลักของการตรวจสอบบัญชีนอกจากการทำตามที่กฎหมายกำหนดแล้ว การตรวจสอบบัญชียังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในงบการเงินของบริษัทให้กับผู้เกี่ยวข้องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าของบริษัทหรือผู้ถือหุ้น เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องสามารถนำงบการเงินที่ผ่านการตรวจสอบแล้วไปใช้ได้อย่างมั่นใจ อีกทั้งสามารถช่วยวางแผนการลงทุนหรือปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางการตลาดได้อีกด้วย
เอกสารที่จะต้องส่งให้กรมสรรพกรไม่ควรมีข้อผิดพลาด!
การที่คุณต้องการจะส่งรายงานทางการเงินให้กรมสรรพกรตรวจนั้น คุณต้องมั่นใจว่าข้อมูลต่างๆ ได้ทำการตรวจสอบว่าถูกต้องสมบูรณ์ที่สุด โดยผู้ตรวจสอบบัญชีจะเป็นคนเก็บรายละเอียดข้อมูลต่างๆ มาพิจารณาว่าผ่านกฎเกณฑ์หรือไม่ หากผ่านก็จะทำการเซ็นรับรองว่าข้อมูลต่างๆ นั้นถูกรับรองเป็นที่เรียบร้อย แต่ถ้าไม่ผ่าน ก็จะส่งรายงานเอกสารกลับมาให้คุณแก้ไข ก่อนที่จะส่งเรื่องไปยังกรมสรรพกร ข้อดีตรงนี้เองทำให้คุณสบายใจได้เลยว่าจะไม่มีการโดนตรวจบัญชีย้อนหลังอย่างแน่นอน
โดยสรุปแล้วการตรวจสอบบัญชีเป็นสิ่งที่ทุกบริษัท ทุกองค์กรต้องพึงกระทำ และเอกสารที่จะส่งต่อให้กรมสรรพกรนั้น ต้องอาศัยคนที่มีความรู้ทางนี้มาโดยเฉพาะ ซึ่งแน่นอนว่าเกือบทุกบริษัทจะทำการว่าจ้างผู้ตรวจสอบบัญชีมาจัดการเรื่องนี้โดยตรง เพราะผู้ตรวจสอบบัญชีจะรู้รายละเอียดและสามารถช่วยจัดการเรื่องภาษีต่างๆ ที่น่าปวดหัวของคุณ ให้กลายเป็นเรื่องง่ายเลยล่ะ